โยเรยันไม่เคยเรียกเก็บเงิน กศ.แนะแจ้งความได้หากมีหลักฐาน

 

15208027_1524459687582653_935546583_n

นักวิชาการกรมการศาสนาชี้การนับถือลัทธิโยเรเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างไร แต่หากมีการเรี่ยไรเงิน ประชาชนสามารถนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เหตุเพราะเข้าข่ายขัดต่อความสงบสุขของประเทศชาติ ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯยันไม่เคยเรียกเก็บเงิน ดำเนินกิจกรรมไม่ต่างจากศาสนาอื่น ย้ำมีคนหลากหลายกลุ่มเชื่อไม่สามารถหลอกลวงได้

จากกรณีที่มีการตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปเชิงวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องของลัทธิโยเร หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา โดยมีศูนย์ใหญ่ตั้งอยู่ที่ อ.ทับกวาง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นลัทธิที่นับถือพระศรีอาริยเมตไตรยที่เชื่อในการส่งผ่านแสงทิพย์รักษาโรคให้หายได้ โดยเจ้าของกระทู้ได้ระบุว่า มีสมาชิกในครอบครัวคือแม่กับพี่สาว เป็นสมาชิกของลัทธิโยเร และได้เดินทางไปทำกิจกรรมกับทางมูลนิธิฯ อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการเดินทาง อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการรับพระและทำกิจกรรมของทางมูลนิธิฯ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายและเกิดปัญหากันภายในครอบครัว จึงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำการตรวจสอบ ทั้งนี้ยังมีสมาชิกส่วนใหญ่ในเว็บไซต์พันทิป เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเชิงลบในกระทู้ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

นักวิชาการกรมการศาสนา(กศ.) กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือความสงบสุขของประชาชนในชาติ ซึ่งในกรณีของลัทธิโยเรนั้น เป็นลัทธิที่แยกตัวออกมาจากพุทธศาสนานิกายมหายานผสมกับความเชื่อในแบบญี่ปุ่น โดยมีนักศาสนาเมืองอาซากุซ่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าของลัทธิ และในภายหลังได้มีการนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย ซึ่งตามหลักกฎหมายทั่วไป ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตามห้ามเรี่ยไรเงินของประชาชน ถ้าหากมีการเรี่ยไรเงินก็ถือว่าผิดกฎหมายขัดต่อความสงบสุขของประเทศชาติ หากพบเจอพฤติกรรมที่มีการเรี่ยไรเงินและมีหลักฐานสามารถเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

เมื่อถามว่ากรมการศาสนาได้มีการเข้าตรวจสอบลัทธิดังกล่าวหรือไม่ นักวิชาการกรมการศาสนาตอบว่า ยังไม่มีการเข้าไปตรวจสอบใดๆ เพราะไม่มีเรื่องร้องเรียนมาเป็นลายลักษณ์อักษร กรมการศาสนาจึงไม่มีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบได้

ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา กล่าวว่า ลัทธิโยเร แท้จริงแล้วเป็นศาสนาพุทธรูปแบบหนึ่งในนิกายมหายาน โดยมีความเชื่อเกี่ยวกับแสงทิพย์จากพระศรีอาริยเมตไตรย ว่าสามารถทำให้ชีวิตของผู้ปฏิบัติดีขึ้นทั้งโรคภัยไข้เจ็บ และเรื่องทางจิตใจ หรือเรียกว่าเป็นการรักษาทั้งร่างกายและวิญญาณ ซึ่งทางมูลนิธิฯได้มีการเผยแพร่ความเชื่อเกี่ยวกับลัทธิโยเรมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกทั้งประเทศราว 600,000 คน โดยการทำกิจกรรมของทางมูลนิธิฯก็เป็นไปในลักษณะเดียวกับการทำกิจกรรมของศาสนาอื่นๆ แต่ความเชื่อของลัทธิโยเรเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก ทำให้ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในทางลบและทางบวก ซึ่งก็เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่มีการตั้งคำถามถึงการทำกิจกรรมของมูลนิธิฯที่สมาชิกต้องเสียเงินจำนวนมากนั้น ยืนยันว่าไม่มีการเรี่ยไรหรือเรียกเก็บเงิน แต่เป็นการทำบุญปกติ ส่วนที่สมาชิกจะต้องไปไหว้พระที่ศูนย์ใหญ่ที่ จ.สระบุรี ทุกเดือนนั้น เป็นการไปไหว้เพราะเพื่อขอบคุณที่ให้ความคุ้มครองซึ่งก็เป็นความเชื่อของสมาชิก ไม่ได้มีการหลอกลวงแต่อย่างใด เพราะคนที่เชื่อในเรื่องนี้มีคนหลายระดับและมีสติปัญญาไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่าย

นายฉัตรชัย ผาสุกธรรม เจ้าของรายการแสงธรรมแห่งศรัทธา กล่าวว่า โยเรเป็นความเชื่่อที่เข้ามาในประเทศไทย มาก็ประมาณเมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยชาวญี่ปุ่น เป็นความเชื่่อในเรื่องของการบำบัดและรักษา อาการเจ็บป่วย โดยใช้พลังโยเร ซึ่งมีอยู่ในกาย ลัทธิโยเรเชื่อว่าผู้ที่ปฏิบัติเท่านั้นจึงจะรู้ว่าองค์สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยมีจริงช่วยผู้คนได้ เป็นพระวิญญาณเสด็จลงมาประทับที่แท่นของสถานสักการะคิวเซเคียว เพื่อส่งพลังแสงทิพย์โดยการโยเรของสมาชิกไปช่วยเหลือผู้อื่นให้มีความสุข ส่วนหลักตามพระพุทธศาสนา เป็นลัทธิของศีล สมาธิและปัญญา ตามคำสอนของพุทธองค์ โดยไม่ได้ให้เราไปยึดถืออะไรมาเป็นที่ตั้ง หากถ้าเรายึดเหนี่ยวโดยขาดปัญญา โดยการ ไร้เหตุผลของความจริง สิ่งที่จะเสียไปนั่นก็คือทรัพย์สิน และคนรอบข้าง ซึ่งเหตุผลนี้ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธองค์อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้าไปตรวจสอบรายชื่อมูลนิธิในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาแล้วนั้น พบว่ามูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา มีการจดทะเบียนมูลนิธิถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีนายคาสุโอะ วาคุกามิ เป็นเจ้าของมูลนิธิ

นางสาวชลิตา เรือนอิ่น รายงาน

ใส่ความเห็น